นวตกรรม:บอกต่อทั่วทิศด้วยจิตอาสากับFacebook: ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
พัฒนาโครงร่างวิจัย
1. ชื่อโครงการ (ภาษาไทย - ภาษาอังกฤษ)
2. ภูมิหลังและที่มาของโครงการ (Background and Rational)
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อสังคมเนื่องมาจากการรณรงค์ส่งเสริมให้ทารกได้กินนมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือนป็นสิ่งดีที่สุด ดังนั้นกระบวนการให้การปรึกษาในเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงมีความสำคัญยิ่ง หากแม่ได้รับการช่วยเหลือแก้ไขอย่างถูกวิธี ตลอดจนได้รับความรู้อย่างถูกต้องจะทำให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ประสบผลสำเร็จยิ่งขึ้น วิธีการดั้งเดิมเป็นการให้ความรู้ในระยะที่ฟักฟื้นในโรงพยาบาล เนื้อหามีมาก ระยะเวลาที่อยู่โรงพยาบาลจำกัด ทำให้ขาดความพร้อมและความมั่นใจที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ผลของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนในโรงพยาบาลบุรีรัมย์อยู่ในระดับต่ำ เพียงร้อยละ 24.05 ภาพรวมของจังหวัดร้อยละ20.2 ภาพรวมของประเทศร้อยละ14.9 ซึ่งสะท้อนว่าแม่ยังขาดความมั่นใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และรับรู้ผลดีของนมแม่ในระดับต่ำ
3. วัตถุประสงค์ของโครงการวิจัย (Objective)
3.1 วัตถุประสงค์หลัก (Primay Objective)
เพื่อศึกษาผลของการใช้เครือข่ายทางสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ค (Facebook) ในการสร้างความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน
3.2 วัตถุประสงค์รอง (Secondary Objective)
4. วิธีการดำเนินโครงการ (Materials and Methods)
4.1 การออกแบบการวิจัย (Study Design)
เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ แบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะเตรียมการ ระยะปฏิบัติการ และระยะประเมินผล
4.2 ประชากรที่ศึกษา (Study Population)
สมาชิกกลุ่มได้แก่ แม่หลังคลอด จำนวน 40 คน พยาบาลเชี่ยวชาญด้านนมแม่ 2 คน สูติแพทย์ 1 คน ศึกษาระหว่างเดือนมีนาคม -สิงหาคม 2554
4.3 แหล่งที่มาของประชากร (Source of Study Population)
4.4 การได้มาซึ่งประชากรที่ศึกษา (Method of Recruitment of Study Population)
4.5 เกณฑ์การคัดเลือกประชากรที่ศึกษา (Selection Criteria)
4.5.1 เกณฑ์การคัดเลือกผู้ร่วมวิจัย/อาสาสมัคร (Inclusion Criteria)
4.5.2 เกณฑ์ไม่รับเข้าในการศึกษา (Exclusion Criteria)
4.5.3 เกณฑ์การถอนผู้ร่วมวิจัย/อาสาสมัครหรือยุติการเข้าร่วมการวิจัย (Withdrawal or Termination Criteria)
4.6 วิธีการแบ่งกลุ่มประชากรที่ศึกษา (Allocation of Study Population)
4.7 จำนวนประชากรที่ต้องการจะศึกษา (Sample Size) และการคำนวณขนาดตัวอย่าง (Sample Size Calculation)
4.8 ขั้นตอนการศึกษา (Study Procedures)
4.9 การวัดผล/การวิเคราะห์ผลการวิจัย (Outcome Measurement/Data Analysis) (กระบวนการวัดผล/ วิเคราะห์ผล รวมถึงสถิติที่ใช้)
4.10 หลักฐาน ข้อมูล หรือเอกสารอ้างอิงที่แสดงว่าการวิจัยนี้น่าจะมีความปลอดภัยและ/หรือมีประโยชน์ต่อผู้ร่วมวิจัย/อาสาสมัคร/สังคม
5. แผนการดำเนินการ (Outline of the Study) และผลที่คาดว่าจะได้รับในแต่ละช่วงระยะเวลา
ในระยะเตรียมการนั้นวิเคราะห์ปัญหา หาวิธีการและการเตรียมความพร้อมในการให้การปรึกษาได้ข้อสรุปว่าควรเพิ่มวิธีการให้การปรึกษาที่เน้นการสื่อสารที่รวดเร็วและสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างแม่หลังคลอดและผู้เชี่ยวชาญได้ตลอดเวลาโดยใช้เฟสบุ๊ค จากนั้นร่วมกันออกแบบและวางแผนการทำงานสำหรับระยะปฏิบัติการ เริ่มจากการสร้างกลุ่มในเฟสบุ๊ค ชื่อ bf_Friendly club (breastfeeding _Friendly club) ให้เป็นกลุ่มลับ แต่งตั้งผู้ดูแล 1 คน (Admin) และ เตรียมตำรา เอกสาร ที่เชื่อถือได้สำหรับการตอบในเชิงลึก เชิญแม่หลังคลอดที่ใช้เฟสบุ๊คและคลอดในโรงพยาบาลบุรีรัมย์ เข้าร่วมถาม-ตอบปัญหาทางเฟสบุ๊ค โดยกำหนดเวลาสำหรับการให้การปรึกษาใน 3 ช่วงคือ 06.00น.-7.00น. , 12.00น.-13.00น. และ 18.00น.-24.00น. ตามลำดับ สำหรับนอกเวลาตอบ หากมีข้อคำถามไม่เร่งด่วน ให้โพสต์ข้อความหรือรูปถ่ายไว้หากต้องการคำตอบทันทีให้ใช้การโทรศัพท์สอบถาม นอกจากนี้ทีมยังได้จัดทำข้อมูลความรู้ที่จำเป็น รูปภาพตัวอย่างสำหรับการอ่าน ดูและศึกษาด้วยตนเองของแม่หลังคลอด วันละ1-2 ประเด็น หรือความรู้ที่นิยมถามแนบไว้ในเอกสาร สำหรับในเวลาตอบ ผู้ดูแลจะติดตามตอบทุกคำถามที่โพสต์ถาม และสนทนาโต้ตอบ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับแม่หลังคลอด รวมระยะเวลาในการปฏิบัติงาน 6 เดือน ส่วนระยะประเมินผลกิจกรรมเป็นการสอบถามโดยวิธีตั้งคำถามให้แม่หลังคลอดร่วมตอบตามความเป็นจริง และใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ และการสนทนากลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ แบบประเมินความพึงพอใจการจัดตั้ง bf_Friendly club แบบประเมินผลกิจกรรม และแบบสอบถามการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ
6. ผลที่คาดว่าจะได้รับเมื่อการดำเนินงานเสร็จสิ้นที่เป็นรูปธรรมและตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ
อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนคิดเป็นร้อยละ 97.5 พบว่านักแม่หลังคลอดสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเองภายหลังได้รับการปรึกษา คิดเป็นร้อยละ 97.5 ความคิดเห็นของแม่หลังคลอดต่อกิจกรรม มีความเหมาะสมระดับดีมากตามลำดับ ดังนี้ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ดูแลและแม่หลังคลอด ร้อยละ 100จำนวนผู้ดูแลที่เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยน และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างแม่หลังคลอดกับแม่หลังคลอดร้อยละ87.5 กิจกรรมที่แม่หลังคลอดมีความความพึงพอใจระดับดีมาก ดังนี้ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างแม่หลังคลอดและผู้ดูแล,ผู้ดูแลที่เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยน, และความชัดเจนถูกต้อง ตรงประเด็นในการให้การปรึกษาคิดเป็นร้อยละ 100 ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม ได้แก่ ควรเชิญผู้เชี่ยวชาญสหสาขามาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแก่แม่หลังคลอด เป็นคลับที่ใส่ใจต่อแม่หลังคลอดจึงอยากเชิญชวนแม่หลังคลอดที่มีปัญหาเข้าร่วมสมาชิกด้วย
7 แผนการนำผลงานดังกล่าวออกสู่การใช้ประโยชน์ (Implementation)
8. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัย
8.1 ประโยชน์ต่อผู้ร่วมวิจัย/อาสาสมัครเป็นรายบุคคล
8.2 ประโยชน์ต่อวิชาชีพโดยรวม
8.4 อื่นๆ
ความก้าวหน้าในการดำเนินการวิจัย/ปัญหาหรืออุปสรรคระหว่างทำวิจัย
อัพเดทความเคลื่อนไหว
ปัจจุบันสมาชิกคลับมีมากกว่า 800 คน แสดงว่าแม่ๆสนใจเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากขึ้นแน่นอน
วิดีโอ
- อ่าน 7010 คน
- พิมพ์หน้านี้
ความคิดเห็น
อยากทราบผลการวิจัยแล้วครับ ออกมายังไงเอ่ย ดีมั้ย
ติดตามด้วยนะคะ
แสดงความคิดเห็น