การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อสังคมเนื่องมาจากการรณรงค์ส่งเสริมให้ทารกได้กินนมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือนป็นสิ่งดีที่สุด ดังนั้นกระบวนการให้การปรึกษาในเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงมีความสำคัญยิ่ง หากแม่ได้รับการช่วยเหลือแก้ไขอย่างถูกวิธี ตลอดจนได้รับความรู้อย่างถูกต้องจะทำให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ประสบผลสำเร็จยิ่งขึ้น วิธีการดั้งเดิมเป็นการให้ความรู้ในระยะที่ฟักฟื้นในโรงพยาบาล เนื้อหามีมาก ระยะเวลาที่อยู่โรงพยาบาลจำกัด ทำให้ขาดความพร้อมและความมั่นใจที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ผลของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนในโรงพยาบาลบุรีรัมย์อยู่ในระดับต่ำ เพียงร้อยละ 24.05 ภาพรวมของจังหวัดร้อยละ20.2 ภาพรวมของประเทศร้อยละ14.9 ซึ่งสะท้อนว่าแม่ยังขาดความมั่นใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และรับรู้ผลดีของนมแม่ในระดับต่ำ
ในระยะเตรียมการนั้นวิเคราะห์ปัญหา หาวิธีการและการเตรียมความพร้อมในการให้การปรึกษาได้ข้อสรุปว่าควรเพิ่มวิธีการให้การปรึกษาที่เน้นการสื่อสารที่รวดเร็วและสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างแม่หลังคลอดและผู้เชี่ยวชาญได้ตลอดเวลาโดยใช้เฟสบุ๊ค จากนั้นร่วมกันออกแบบและวางแผนการทำงานสำหรับระยะปฏิบัติการ เริ่มจากการสร้างกลุ่มในเฟสบุ๊ค ชื่อ bf_Friendly club (breastfeeding _Friendly club) ให้เป็นกลุ่มลับ แต่งตั้งผู้ดูแล 1 คน (Admin) และ เตรียมตำรา เอกสาร ที่เชื่อถือได้สำหรับการตอบในเชิงลึก เชิญแม่หลังคลอดที่ใช้เฟสบุ๊คและคลอดในโรงพยาบาลบุรีรัมย์ เข้าร่วมถาม-ตอบปัญหาทางเฟสบุ๊ค โดยกำหนดเวลาสำหรับการให้การปรึกษาใน 3 ช่วงคือ 06.00น.-7.00น. , 12.00น.-13.00น. และ 18.00น.-24.00น. ตามลำดับ สำหรับนอกเวลาตอบ หากมีข้อคำถามไม่เร่งด่วน ให้โพสต์ข้อความหรือรูปถ่ายไว้หากต้องการคำตอบทันทีให้ใช้การโทรศัพท์สอบถาม นอกจากนี้ทีมยังได้จัดทำข้อมูลความรู้ที่จำเป็น รูปภาพตัวอย่างสำหรับการอ่าน ดูและศึกษาด้วยตนเองของแม่หลังคลอด วันละ1-2 ประเด็น หรือความรู้ที่นิยมถามแนบไว้ในเอกสาร สำหรับในเวลาตอบ ผู้ดูแลจะติดตามตอบทุกคำถามที่โพสต์ถาม และสนทนาโต้ตอบ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับแม่หลังคลอด รวมระยะเวลาในการปฏิบัติงาน 6 เดือน ส่วนระยะประเมินผลกิจกรรมเป็นการสอบถามโดยวิธีตั้งคำถามให้แม่หลังคลอดร่วมตอบตามความเป็นจริง และใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ และการสนทนากลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ แบบประเมินความพึงพอใจการจัดตั้ง bf_Friendly club แบบประเมินผลกิจกรรม และแบบสอบถามการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ
อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนคิดเป็นร้อยละ 97.5 พบว่านักแม่หลังคลอดสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเองภายหลังได้รับการปรึกษา คิดเป็นร้อยละ 97.5 ความคิดเห็นของแม่หลังคลอดต่อกิจกรรม มีความเหมาะสมระดับดีมากตามลำดับ ดังนี้ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ดูแลและแม่หลังคลอด ร้อยละ 100จำนวนผู้ดูแลที่เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยน และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างแม่หลังคลอดกับแม่หลังคลอดร้อยละ87.5 กิจกรรมที่แม่หลังคลอดมีความความพึงพอใจระดับดีมาก ดังนี้ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างแม่หลังคลอดและผู้ดูแล,ผู้ดูแลที่เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยน, และความชัดเจนถูกต้อง ตรงประเด็นในการให้การปรึกษาคิดเป็นร้อยละ 100 ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม ได้แก่ ควรเชิญผู้เชี่ยวชาญสหสาขามาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแก่แม่หลังคลอด เป็นคลับที่ใส่ใจต่อแม่หลังคลอดจึงอยากเชิญชวนแม่หลังคลอดที่มีปัญหาเข้าร่วมสมาชิกด้วย