ประสิทธิผลของโปรแกรมสุขภาพต่อพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงในโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน (-)

1. ชื่อโครงการ (ภาษาไทย):

ประสิทธิผลของโปรแกรมสุขภาพต่อพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงในโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน

ชื่อโครงการ (ภาษาอังกฤษ):

2. ภูมิหลังและที่มาของโครงการ (Background and Rational):

-ประเทศไทย พบผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงทั่วประเทศ (ยกเว้นกรุงเทพมหานคร) จำนวน 445,300 คน และมีอัตราการตายจากโรคความดันโลหิตสูง 24.3 ต่อประชากรแสนคน (กระทรวงสาธารณสุข, 2550)

-คนกรุงเทพมหานครเป็นโรคความดันโลหิตสูงร้อยละ 28.9 ของประชากร (ค่าเฉลี่ยของประเทศร้อยละ 21.4) (ข้อมูลจากเวทีสาธารณะมองกรุงเทพฯ 2575) สถิติกรุงเทพมหานคร ปี 2555 ประชากรกรุงเทพฯ มี 5,673,560 คน

-ปัจจัยเสี่ยงซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตและทุพพลภาพโดยพบว่า

- ผู้ป่วยโอกาสเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดถึง 55.2 ต่อ

ประชากรแสนคน (สำนักโรคไม่ติดต่อ, 2550)

- โอกาสเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (Hyman & Pavlik, 2003)

มากกว่า คนปกติ 3 เท่า

- มีโอกาสเกิดโรคหัวใจวายเพิ่มขึ้น 6 เท่า (Howard &

Kirshner, 2009)

- เสี่ยงต่อการเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้มากกว่าคนปกติ 7

เท่า (สำนักโรคไม่ติดต่อ, 2550)

3. วัตถุประสงค์ของโครงการวิจัย (Objective)

3.1 วัตถุประสงค์หลัก (Primay Objective):

•เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงระหว่างก่อนและหลัง (กลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง)ให้โปรแกรมสุขภาพ

•เพื่อเปรียบเทียบระดับความดันโลหิตก่อนและหลัง(กลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง)ให้โปรแกรมสุขภาพ

4. วิธีการดำเนินโครงการ (Materials and Methods)

4.1 การออกแบบการวิจัย (Study Design):

1.อธิบายให้กลุ่มตัวอย่างทราบแนวทางการวิจัย

2.ให้เซ็นอนุญาตเก็บข้อมูล

3.ทำการสัมภาษณ์ผู้ป่วยตามข้อมูลในแบบสัมภาษณ์ที่กำหนดให้ครบถ้วน และศึกษาข้อมูลเบื้องต้น ประวัติการรักษา พฤติกรรมสุขภาพ การรับประทานอาหาร การรับประทานยา การมาตรวจตามนัด ผลการตรวจทางห้องทดลอง

4.สร้างสัมพันธภาพกับผู้สูงอายุและญาติผู้ดูแล

5. สอบถามความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูง

-ให้ความรู้และให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยในกลุ่มทดลองตามโปรแกรมโดย การสอน การเข้ากลุ่ม

-การใช้สื่อการสอน แจกแผ่นพับ VCD

6.กลุ่มควบคุมได้รับการดูแลให้คำปรึกษาด้านสุขศึกษาตามปกติ

7.ติดตามผลการจัดการผู้ป่วยแยกตามกลุ่ม

8.วิเคราะห์ข้อมูล และสรุปผล

4.2 ประชากรที่ศึกษา (Study Population):

-ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่มารับบริการที่ ศูนย์หัวใจโรงพยาบาล

เปาโล เมโมเรียล พหลโยธินต่อเนื่อง ใน ปี 2556 จำนวน 1,275 ราย

4.3 แหล่งที่มาของประชากร (Source of Study Population):

ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง หมายถึง ผู้มารับบริการที่ศูนย์หัวใจ แล้วแพทย์วินิจฉัยว่ามีภาวะความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ มีค่าความดันโลหิตซิสโตลิค > 140 mmHg และหรือค่าความดันโลหิตไดแอสโตลิค > 90 mmHg ติดต่อกันอย่างน้อย 4 ครั้งในเวลา 6 เดือน (เวชระเบียนผู้ป่วย)

การวิจัย แบ่งกลุ่มเป็น กลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม

4.6 วิธีการแบ่งกลุ่มประชากรที่ศึกษา (Allocation of Study Population):

•คัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง โดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 60 คนที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด จับฉลาก แบ่งเป็นกลุ่มควบคุม 30 คน และกลุ่มทดลอง 30 คน

4.7 จำนวนประชากรที่ต้องการจะศึกษา (Sample Size) และการคำนวณขนาดตัวอย่าง (Sample Size Calculation):

4.9 การวัดผล/การวิเคราะห์ผลการวิจัย (Outcome Measurement/Data Analysis) (กระบวนการวัดผล/ วิเคราะห์ผล รวมถึงสถิติที่ใช้):

1. วิเคราะห์โดยใช้โปรแกรม SPSS

2.สถิติที่ใช้ในการวิจัย

-ข้อมูลทั่วไป ใช้ค่าเฉลี่ย ร้อยละ

-วิเคราะห์พฤติกรรมการควบคุมความดันโลหิตใช้ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

-การเปรียบเทียบของกลุ่มตัวอย่าง ใช้ t-test

4.5 เกณฑ์การคัดเลือกประชากรที่ศึกษา (Selection Criteria)

4.5.1 เกณฑ์การคัดเลือกผู้ร่วมวิจัย/อาสาสมัคร (Inclusion Criteria):

1. อายุ 40 - 60 ปี

2. มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน

3. ไม่มีโรคแทรกซ้อนโรคหัวใจ เบาหวาน โรคไต อัมพาต ไม่ตั้งครรภ์

4. ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่

5. สามารถอ่าน เขียนและสื่อสารด้วยภาษาไทย

6. ยินยอมเข้าร่วมการวิจัย

4.5.3 เกณฑ์การถอนผู้ร่วมวิจัย/อาสาสมัครหรือยุติการเข้าร่วมการวิจัย (Withdrawal or Termination Criteria):

. ผู้มารับบริการที่มีค่าความดันโลหิตสูง > 200/100 mmHg

6. ผลที่คาดว่าจะได้รับเมื่อการดำเนินงานเสร็จสิ้นที่เป็นรูปธรรมและตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ:

-บุคลากรทางสาธารณสุขนำผลการวิจัยไปใช้กำหนดแผนงาน แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง

-นำองค์ความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการสร้างโปรแกรมสุขศึกษาเพื่อดูแลผู้ป่วยเรื้อรังกลุ่มอื่น เช่น โรคไต เบาหวาน

8. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัย

8.1 ประโยชน์ต่อผู้ร่วมวิจัย/อาสาสมัครเป็นรายบุคคล:

ความก้าวหน้าในการดำเนินการวิจัย/ปัญหาหรืออุปสรรคระหว่างทำวิจัย:

•ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่มารับบริการอย่างต่อเนื่อง ( FU มากกว่า 6 ครั้งในรอบ 1 ปี )ในโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน ปี 2555 จำนวนทั้งหมด 2,527 คน เป็นกลุ่มที่ควบคุมความดันโลหิตได้เพียงจำนวน 1,372 คน คิดเป็นร้อยละ 54.29 และควบคุมความดันโลหิตไม่ได้ จำนวน 1,155 คน คิดเป็นร้อยละ 45.71

•โรคนี้เป็นโรคเรื้องรังที่ไม่หายขาด แต่สามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้ โดยการช่วยให้ผู้ป่วยตระหนักถึงความสำตัญของการมีพฤติกรรมที่ถูกต้อง เหมาะสม ให้ผู้ป่วยรับรู้ความสามารถของตน มีส่วนร่วมในการดูแลตนเองและได้รับการสนับสนุนทางสังคม

อัพเดทความเคลื่อนไหว

อัลบั้มภาพ

วิดีโอ