การรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดเฉียบพลัน (acute ischemic stroke) ด้วยยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำ (intravenous recombinant tissue plasminogen activator; IV rtPA) ในผู้ป่วยที่มีอาการภายใน 4.5 ชั่วโมง (270 นาที) เป็นมาตรฐานสากลในการรักษา สามารถลดภาวะทุพพลภาพและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย อย่างไรก็ตามจำนวนผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดเฉียบพลันในประเทศไทยที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือดมีเพียงร้อยละ 1.95 ซึ่งอยู่ในระดับน้อยเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว อาทิเช่น ประเทศแคนาดาได้รับยาร้อยละ 8.9 และสหรัฐอเมริกาได้รับยาร้อยละ 3.0-8.53 หลายยุทธวิธีได้ถูกใช้ในการพัฒนาเพื่อทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสได้รับการรักษาด้วยยาละลายลิ่มเลือด4 เช่น การตระหนักรู้ของประชาชนเกี่ยวกับโรค ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน(emergency medical services; EMS) ระบบการจัดการที่ห้องฉุกเฉิน ซึ่งการพัฒนาย่อมเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ที่มีภาระโรค (burden of disease) สูง หลักฐานปัจจุบันพบว่า ข้อมูลปีสุขภาวะที่สูญเสียไปจากโรคและการบาดเจ็บของประชากร (disability-adjusted lifeyears; DALYs) ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองของประเทศไทย พ.ศ. 2557 นั้น มากเป็นอันดับสองทั้งในผู้ป่วยชายและหญิง นอกจากนั้นหากพิจารณาเฉพาะกลุ่มประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป พบว่าสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งทั้งในกลุ่มผู้ป่วยชายและหญิง
ระบบการจัดการที่ห้องฉุกเฉินเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สามารถพัฒนาให้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มโรคที่มีปัจจัยด้านเวลาส่งผลต่อการรักษา อย่างเช่นโรคหลอดเลือดสมอง การพัฒนาการจัดการเพื่อให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดเฉียบพลันที่มาห้องฉุกเฉินภายใน 4.5 ชั่วโมง หลังจากเริ่มมีอาการมีโอกาสได้รับยาละลายลิ่มเลือดตามมาตรฐานสากลอีกทั้งสามารถให้ยาได้อย่างเร็วที่สุดเพื่อฟื้นคืนเลือดไปเลี้ยงสมองนั้นส่งผลดีต่อการลดภาวะทุพพลภาพของผู้ป่วย ดังวลีที่ว่า “time is brain” พบว่าทุกๆ 1 นาทีที่ผ่านไป ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดที่ไม่ได้รับการรักษาจะสูญเสียเซลล์ประสาทจำนวน 1.9 ล้านเซลล์จากจำนวนเซลล์สมองเฉลี่ยประมาณ 130 พันล้านเซลล์ทั้งนี้มีคำแนะนำในปัจจุบันให้ผู้ป่วยควรได้รับยาภายใน60 นาทีหลังจากมาถึงโรงพยาบาล
ดังนั้นโรงพยาบาลนครปฐมจึงได้มีการพัฒนาระบบช่องทางด่วนเพื่อดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดเฉียบพลัน ณ ห้องฉุกเฉิน และได้ศึกษาผลการดำเนินการดังกล่าวเมื่อดำเนินการครบ 1 ปี เพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนาต่อไป