1. ชื่อโครงการ (ภาษาไทย):
การพัฒนาวิธีประเมินภาวะกล่องเสียงและสายเสียงบวมก่อนถอดท่อช่วยหายใจ
2. ภูมิหลังและที่มาของโครงการ (Background and Rational):
การใส่เครื่องช่วยหายใจช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้ส่งไปเลี้ยงสมองและอวัยวะต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจโดยไม่ได้วางแผน มักเกิดภาวะแทรกซ้อนได้แก่ปอดอักเสบ เลือดออกทางเดินระบบอาหาร หลอดลมตีบจากการใส่ท่อช่วยหายใจนาน (อธิรักษ์ ปาลวัฒน์วิไชย, 2546) ญาติกังวลมากขึ้นเมื่อแก้ไขสาเหตุแล้วควรเริ่มหย่าเครื่องช่วยหายใจโดยเร็วที่สุดจะลดภาวะแทรกซ้อนได้ (Burns, 1999) แต่มีร้อยละ 37 ที่หย่าเครื่องช่วยหายใจไม่สำเร็จ ร้อยละ 24 ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจซ้ำ (cook et al., 2003) ส่งผลให้นอนโรงพยาบาลนานขึ้นอัตราการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนเพิ่มมากขึ้น ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจึงควรให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้ผู้ป่วยหย่าเครื่องช่วยหายใจสำเร็จรพ.มะการักษ์มีอัตราการใส่ท่อช่วยหายใจซ้ำร้อยละ15 สาเหตุจากภาวะกล่องเสียงและสายเสียงบวมแนวทางการประเมินบางหัวข้อต้องใช้ความรู้ทักษะและประสบการณ์สูงอุบัติการณ์ดังกล่าวอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ผู้วิจัยจึงสนใจการพัฒนาแนวปฏิบัติการหย่าเครื่องช่วยหายใจโดยเน้นการประเมินภาวะกล่องเสียงและสายเสียงบวมก่อนดึงท่อช่วยหายใจออกเพื่อลดอัตราการใส่ท่อช่วยหายใจซ้ำหลังการถอดท่อช่วยหายใจ
6. ผลที่คาดว่าจะได้รับเมื่อการดำเนินงานเสร็จสิ้นที่เป็นรูปธรรมและตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ:
ผลการศึกษา กลุ่มตัวอย่างเป็นเพศชาย 53.7% เพศหญิง 46.3% อายุ63-91ปีเฉลี่ย 63ปีอาชีพรับจ้างร้อยละ53.8, งานบ้านร้อยละ 35, โรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูงและเบาหวาน 44.77% สาเหตุการใส่เครื่องช่วยหายใจคือSepsis 43.8%, Pneumonia 32.5%, ระยะเวลาใส่ท่อช่วยหายใจ48-96ชม.เฉลี่ย77ชม.การประเมินการหย่าเครื่องช่วยหายใจมี 3 ส่วนคือความพร้อมในการหย่าเครื่องช่วยหายใจผ่านทุกราย ขณะหย่าเครื่องช่วยหายใจ จาก80รายผ่านในรอบที่1จำนวน65ราย(81.25%)จึงประเมินส่วนที่3 ส่วน15 ราย(10%) ที่ไม่ผ่านได้รับการต่อเครื่องช่วยหายใจรายงานแพทย์ให้การรักษาที่เหมาะสมได้แก่การพ่นยาจากนั้นอาการดีขึ้นจนผ่านการประเมินในครั้งที่2 และก่อนถอดท่อช่วยหายใจ จาก80รายพยาบาลประเมินว่าไม่มีภาวะกล่องเสียงและสายเสียงบวม 68 ราย มีภาวะบวม 12 ราย แพทย์ประเมินว่าไม่บวม69รายอีก 11 รายเห็นว่าบวม เมื่อเปรียบเทียบผลการประเมินระหว่างพยาบาลกับแพทย์พบว่าแตกต่างกันแต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ (=.051,p=0.822) กลุ่มที่มีอาการบวมแพทย์พิจารณาให้การรักษาและแก้ปัญหาโดยให้ dexamethasone อัตราการใส่ท่อช่วยหายใจซ้ำภายใน 48 ชั่วโมงลดลงเหลือร้อยละ0